สุทิติ ขัตติยะ,วิไลลักษณ์
สุวจิตตานนท์(2553:29) อ้างถึง Black & Champion.1976
ว่า เป็นคำที่มีความหมายครอบคลุมทั้งหมดของกระบวนการดำเนินการวิจัย
นับตั้งแต่ปัญหาการวิจัย รูปแบบการวิจัย วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล
การตีความและสรุปการวิจัย
ซึ่งรูปแบบการวิจัยเกี่ยวข้องกับการออกแบบการวิจัยเป็นแกนประสานปัญหาการวิจัยกับวิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
http://graduate.east.spu.ac.th/KM/AcademicWriting(F)/unit2/U2_7/01.htm
รศ.ดร.อลิสา วานืชดี
ได้รวบรวมไว้ว่า ระเบียบวิธีวิจัย
กล่าวถึงขั้นตอนและกระบวนการวิจัย
ในขั้นตอนนี้ควรจะแสดงถึงโครงสร้างของความรู้ให้ผู้อ่านได้ทราบถึงเงื่อนไขหรือวิธีการที่การทดลองหรือการศึกษาวิจัยนั้นได้กระทำขึ้น
ควรรวมถึง
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้อ่านประเมินความน่าเชื่อถือของระเบียบวิธีวิจัย
และเป็นการย้ำว่าสามารถทดลองหรือศึกษาซ้ำได้โดยใช้ระเบียบวิธีเดียวกัน
หากบางประเด็นมีรายละเอียดมากให้ใส่ไว้ในภาคผนวก
http://pairach.com/2011/08/07/part2_research_methodolog/ได้รวบรวมไว้ ว่า
ในข้อนี้เป็นการแสดงว่าระเบียบวิธีวิจัยของเรานั้นมีความถูกต้องและเหมาะสมตามหลัก
มีแนวทางการเขียนดังนี้
2.1
การเลือกระเบียบวิธีวิจัยให้เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับคำถามวิจัยที่ใช้
ไม่ใช่โดยเหตุผลอื่นๆ เช่น เราคำนวณเก่งหรือไม่เก่ง
หรือแม้จะอ้างว่ายังไม่มีใครใช้วิธีนี้ในการวิจัยเรื่องนั้นๆ ซึ่งแม้บางทีจะพอรับได้แต่ก็ไม่ถูกต้องตลอดไป
ตัวอย่างการเลือกวิธีการวิจัยที่เหมาะสมเช่น
ก.
คำถามวิจัยเริ่มต้นด้วยคำว่า ทำไม… จึงต้องการรายละเอียดที่จะอธิบายสาเหตุดังกล่าวประกอบกับยังไม่มีแนวทางจากงานวิจัยในอดีตมากนักจึงใช้การสัมภาษณ์แบบปลายเปิดแบบเชิงลึก
หรือ
ข. คำถามวิจัยเริ่มด้วยคำว่า อะไร… เท่าไหร่
ต้องการคำตอบในเชิงปริมาณครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่
จึงใช้การสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม
2.2
การเลือกวิธีการวิจัยอาจจะอ้างอิงจากงานวิจัยในอดีตที่ใกล้เคียงกัน
เช่นจำนวนตัวอย่างที่เหมาะสม หรือหัวข้อคำถาม
หรือกรอบแนวคิดที่มากจากงานวิจัยในอดีต
2.3
การเลือกวิธีการวิจัยอาจจะอ้างอิงจากการศึกษาขั้นต้น
หากมีโอกาสและเวลาพอ
การศึกษาขั้นต้นเช่นกรณีศึกษานำร่อง (Pilot study) อาจจะเป็นตัวกำหนด
กรอบแนวคิด หรือ คำถามวิจัย หรือ ตัวแปรที่เหมาะสมก็ได้
หรือหากงานที่ศึกษาใช้แบบสอบถามที่มี Likert Scale การเลือกว่าจะใช้
Likert Scale ที่ 5, 7 หรือ 10
นั้นอาจจะมาจากการทดลองเก็บข้อมูลขั้นต้นก็ได้
สำหรับ MSc Dissertation ที่มีความยาวไม่เกิน 15,000 คำ บท Methodology ปกติจะมีความยาวประมาณ
2,000-5,000 คำ แล้วแต่ความเหมาะสม
สรุป
ระเบียบวิธีการวิจัยหรือวิธีการวิจัย (Research methodology) นั้นแบ่งได้เป็น
2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงวิตรรก (Rational research
methodology) และระเบียบวิธีวิจัยเชิงประจักษ์ (Empirical
research methodology) วิธีวิจัย จะเลือกใช้วิธีวิจัยแบบใด เช่น
จะใช้การวิจัยเอกสาร การวิจัยแบบทดลอง การวิจัยเชิงสำรวจ การวิจัยเชิงคุณภาพ
หรือจะใช้หลายๆ วิธีรวมกัน ซึ่งก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะใช้วิธีอะไรบ้าง
อ้างอิง
สุทิติ ขัตติยะและวิไลลักษณ์
สุวจิตตานนท์.(2553).แบบแผนการวิจัยและสถิติ.(พิมพ์ครั้งที่ 1).กรุงเทพฯ:หจก.
เปเปอร์เฮาส์.
http://pairach.com/2011/08/07/part2_research_methodolog/ เข้าถึงเมื่อวันที่ 01/12/2555 เวลา 07.23 น.
http://graduate.east.spu.ac.th/KM/AcademicWriting(F)/unit2/U2_7/01.htm รศ.ดร.อลิสา วานิชดี เข้าถึงเมื่อวันที่ 01/12/2555 เวลา 07.22 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น