ยุทธ ไกยวรรณ์(2550:90) กล่าวว่า เป็นการอธิบายคำ หรือข้อความที่สำคัญในงานวิจัย
เพื่อให้ผู้ศึกษางานวิจัยนั้น ๆ
มีความเข้าใจ ในสิ่งที่ผู้วิจัย ดำเนินการวิจัย ว่า ผู้วิจัยไปดำเนินการหรือเก็บรวบรวมข้อมูล
กับใคร เนื้อหาอะไร สถานที่ไหน
(ไม่ใช่เป็นการนิยามศัพท์ตามพจนานุกรม)
ไพศาล วรคำ(2552:191)
กล่าวว่า
เป็นการเขียนอภิปราบความหมายของคำที่นักวิจัยนำมาใช้ในงานวิจัยและต้องการให้ผู้อ่าน
ๆ งานวิจัยมีความเข้าใจตรงกันกับนักวิจัยและมีความสอดคล้องตามหลักวิชาการ
เป็นการเขียนให้ชัดเจนว่าคำนั้น หรือวลีนั้นหมายถึงอะไร
สามารถสังเกตหรือวัดได้อย่างไร และสามารถนำไปปฏิบัติได้เป็นอย่างเดียวกัน
โดยความหายของคำศัพท์ที่นิยมจะได้มาจากการศึกษาเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
หรือเป็นความหมายของผู้วิจัยได้ศึกษา
รวีวรรณ ชินะตระกูล (2550:58)กล่าวว่า ผู้วิจัยอาจมีคำเฉาะที่ใช้ในงานวิจัย
เนื่องจากคำที่ใช้อาจมีความหมายคลุมเครือ หรือตีความได้หลายความหมาย
จึงจำเป็นต้องใช้คำจำกัดความไว้เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจได้ตรงกับผู้วิจัย
และสำหรับคำที่เป็นศัพท์ทางวิชาการที่ไม่ค่อยได้ใช้กันแพร่หลายควรให้คำจำกัดความไว้เช่นกัน
ถึงแม้ว่าผู้วิจัยสามรถกำหนดของเขตของความหมายของคำแต่ก็ไม่ควรให้ความหมายที่แตกต่าง
มาไปจากความหมายโดยทั่วไปของคำนั้น
เนื่องจากอาจจะทำให้ผู้อ่านตีความหมายของผู้วิจัยผิดพลาดได้
สรุป เป็นการให้ความหมายของคำที่สำคัญที่ผู้วิจัยศึกษาอยู่
เพื่อให้ผู้อ่านมีความเห็นที่สอดคล้องเข้าใจตรงกันสามารถนำไปปฏิบัติได้เป็นอย่างดีและลอดคล้องตามหลักวิชาการและไม่เปลี่ยนแปลงไปจากความหมายเดิมมากนักเพื่อไม่ให้ผู้อ่านเกิดความสับสน
โดยความหมายนั้นจะได้มาจากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
หรือเป็นความหมายที่ผู้วิจัยได้ศึกษา
อ้างอิง
อ้างอิง
ไพศาล วรคำ.(2552).การวิจัยทางการศึกษา.ครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ยุทธ ไกยวรรณ์.(2550).หลักการทำวิจัยและการทำวิทยานิพนธ์.กรุงเทพฯ:บริษัทพิมพ์ดี จำกัด.
รวีวรรณ ชินะตระกูล.(2550).วิธีวิจัยการศึกษา.ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ:ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาพพิมพ์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น